เปลี่ยนม่านเก่าเป็นผ้าม่าน blackout ทางเลือกลดบ้านร้อนเพื่อบ้านรัก

ผ้าม่าน blackout ม่านยอดนิยมสำหรับบ้านสมัยใหม่ ด้วยคุณสมบัติครบเครื่อง ทั้งใช้เป็นผ้าม่านกันแสง ผ้าม่านกันแดด ผ้าม่านกั้นแอร์ หรือแม้แต่ใช้กั้นห้องให้เป็นสัดส่วน ทั้งยังมีหลายรูปแบบ และหลายสีสันให้เลือกใช้ตกแต่งบ้าน จึงไม่น่าแปลกใจที่ผ้าม่านแบล็คเอาท์จะครองใจใครหลายๆ คน แต่เชื่อว่าหลายคนที่กำลังต้องการซื้อผ้าม่านมาตกแต่งบ้าน อาจยังมีข้อสงสัยว่าผ้าม่าน blackout คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ต้องเลือกอย่างไรให้ตรงกับความต้องการ แล้วผ้าม่านราคาสูงแค่ไหนถึงจะมีคุณภาพดี HomeGuru จึงรวบรวมทุกคำตอบมาไว้ในบทความนี้แล้วครับ
 
รู้จักประเภทของผ้าก่อนซื้อผ้าม่าน
โดยทั่วไปจะมีองค์ประกอบบางส่วนที่เราอาจมองไม่เห็นซ่อนอยู่ ผ้าสำหรับใช้ทำผ้าม่านนั้น ประกอบด้วยชนิดผ้าที่แตกต่างกันหลักๆ 4 แบบครับ
1. ผ้าม่าน (Curtain) เป็นผ้าหลักที่มีหลากหลายแบบ ทั้งแบบใยผ้าธรรมชาติที่แสงทะลุผ่านได้มาก และใยผ้าสังเคราะห์ที่มีความหนามากขึ้น บังแสงได้มากขึ้น
2. ผ้าโปร่ง (Sheer Fabric) เป็นผ้าใยสังเคราะห์ที่ใช้ทำผ้าม่านอีกชั้น ช่วยพรางสายตา เสริมให้บ้านสวยและดูพลิ้วไหว
3. ผ้ากันแสง (Blackout) พระเอกของผ้าม่านกันแสงที่สามารถช่วยกันแสงได้ถึง 99% มีทั้งแบบ PVC และแบบใยสังเคราะห์ผสม บางชนิดมีการเคลือบกันรังสี UV หรือมีคุณสมบัติไม่ลามไฟอีกด้วย
4. ผ้าซับหลัง (Backing) เป็นผ้าที่ใช้เสริมด้านหลังเพื่อช่วยรักษาเนื้อผ้าไม่ให้ซีดจาง และยังช่วยให้ผ้าม่านทิ้งตัวเป็นทรงสวยด้วยผ้าม่าน blackout คืออะไร
ผ้าม่านแบล็คเอาท์ คือผ้าม่านกันแสง ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติอย่างแสงแดด หรือแสงอื่นๆ อย่างแสงไฟในบ้าน รวมถึงกัน UV ได้บางส่วน การกันแดดหรือกันความร้อนจึงเป็นเพียงคุณสมบัติหนึ่งที่ได้จากการกันแสงเท่านั้นครับ
 
ผ้าม่านแบล็คเอาท์เป็นผ้าชนิดพิเศษที่ผ่านกระบวนการการเคลือบด้านหลังผ้าด้วยโฟมมากถึง 3 ชั้นเป็นอย่างน้อย บางรุ่นมีการเคลือบเพิ่มเติมด้วยซิลิโคนในชั้นที่ 4 เพื่อประสิทธิภาพในการกันแสงเข้าถึง 99% จึงเหมาะสำหรับติดตั้งในห้องนอน หรือห้องที่ต้องการความมืดสนิทครับ
 
ผ้าม่าน blackout แบบไหนดีที่สุด
ด้วยคุณสมบัติของผ้าม่านกันแสงที่ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพที่สุด เพราะ มีลักษณะหนา ทึบแสง เนื้อผ้ามักเป็นแบบ Polyester Polymer ผสมด้วยสารป้องกันแสงแดดและความร้อน นอกจากนี้ผ้าม่าน blackout ยังแบ่งได้อีกหลายแบบครับ
– ผ้าม่าน blackout แบบเคลือบโฟม เป็นผ้าม่านกันแดดที่ด้านหลังเคลือบด้วยโฟม ผิวสัมผัสเหมือนฟองน้ำ โดยรวมมีความหนามากกว่าผ้าม่านแบล็คเอาท์แบบอื่นๆ นอกจากความหนาของผ้าจะช่วยกันแสงได้ดีแล้ว ยังช่วยซับเสียงได้บางส่วน แต่ขณะเดียวกันก็มีอายุการใช้งานไม่ยาวนานนัก
– ผ้าม่าน blackout แบบเคลือบซิลิโคน พัฒนาขึ้นมาจากแบบเคลือบโฟม ด้านหลังของผ้าจะเห็นเป็นเนื้อซิลิโคนที่เคลือบไว้ จึงดูไม่ค่อยยืดหยุ่นนุ่มนวล แต่ทำให้สามารถรักษารูปทรงได้ดี และมีการทิ้งตัวที่เป็นระเบียบสวยงาม สามารถใช้เป็นผ้าม่านกันแสงและผ้าม่านกั้นแอร์ได้ดี
– ผ้าม่าน blackout แบบฉาบปรอท มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน และลดการสะสมความร้อนได้ แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักเพราะเป็นผ้าม่านราคาสูง มีอายุการใช้งานจำกัด และมีส่วนประกอบหลักอย่างปรอทที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ
– ผ้าม่าน blackout แบบสอดด้ายดำ เป็นผ้าม่านกันแสงที่กันแสงได้ไม่เท่าแบบอื่นๆ แต่มีความสวยงามลงตัวมากกว่าทุกแบบ ด้วยเทคนิคการสอดด้ายดำเข้ากลางเนื้อผ้าตั้งแต่ในขั้นตอนการทอผ้า ทำให้มีความพลิ้วไหว มีน้ำหนัก และทิ้งตัวได้เป็นธรรมชาติ รวมทั้งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าด้วยครับ
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://homeguru.homepro.co.th/black-out-light-curtains-a-practical-choice-to-reduce-heat-for-home/